top of page

Fintech มีอนาคตที่สดใสในโลกที่กำลังพัฒนา


Fintech มีอนาคตที่สดใสในโลกที่กำลังพัฒนา


ปัจจุบันสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นชำระเงินกำลังช่วยเหลือประเทศที่ขาดระบบธนาคารให้สามารถตามทัน หรือแม้กระทั่งก้าวนำประเทศที่พัฒนาแล้ว

ประเทศที่กำลังพัฒนาอาจได้รับประโยชน์จากความเจริญก้าวหน้าทาง Fintech นี้มากที่สุด ไม่ใช่ที่ซิลิคอนวัลเลย์ นิวยอร์ก ลอนดอน หรือ เมืองศูนย์กลางทางการเงินหรือเทคโนโลยี อื่นๆ


และเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือก็อยู่เบื้องหลังของทั้งหมด


เป็นที่รู้กันว่าเทคโนโลยีทางการเงินในยุคใหม่นี้เกิดมาเพื่อตอบโจทย์ในพื้นที่ที่ขาดแคลนระบบการธนาคารที่ดีและยังรอคอยการเชื่อมต่อกับระบบการเงินของโลก


ในประเทศที่พัฒนาแล้ว Fintech จะแค่เปลี่ยนวิธีที่เราทำสิ่งต่างๆ แต่หากเป็นประเทศที่กำลังพัฒนานั้น Fintech จะปฏิวัติวิถีการดำเนินชีวิตของคน


ธนาคารโลกประมาณการว่ามีประชากรที่เป็นผู้ใหญ่กว่า 2 พันล้านคนที่ยังไม่มีบัญชีธนาคาร แต่บัญชีและระบบชำระเงินผ่านทางโทรศัพท์กำลังลดตัวเลขนั้นลงอย่างต่อเนื่อง ระหว่างปี 2011 และปี 2014 มีคน 700 ล้านคนที่เข้าถึงบริการทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ


มากกว่าร้อยละ 85 ของประชากรประเทศเคนย่าใช้แอพพลิเคชั่นชำระเงินในโทรศัพท์มือถือที่มีชื่อว่า M-Pesa ในการชำระเงิน การเพิ่มขึ้นของตัวเลขนี้เห็นได้ชัดในประเทศจีน อินเดีย และแอฟริกาใต้ทะเลทรายสะฮารา ตอนนี้ผู้คนในประเทศเคนย่ามากกว่าร้อยละ 85 รวมถึงผู้ที่ขาดการศึกษา สามารถใช้แอพพลิเคชั่นบนมือถือในการชำระบิลค่าบริการและทำรายการทางการเงินอื่นๆ ได้


ลูกค้าที่ใช้ M-Pesa สามารถนำเงินเข้าและออกจากโทรศัพท์ได้ที่ตัวแทนกว่า 40,000 รายของ M-Pesa ที่อยู่ในร้านสะดวกซื้อและร้านค้าอื่นๆ ทั่วประเทศ ผู้ใช้บริการยังสามารถใช้โทรศัพท์ในการโอนเงินให้แก่กัน ในขณะที่เงินสดยังคงเป็นที่นิยมอยู่ แต่การชำระผ่านมือถือสามารถป้องกันการขโมยและแก้ปัญหาความปลอดภัยเมื่อต้องขนย้ายเงินจำนวนมากได้ อีกทั้งเทคโนโลยีนี้ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้กับสมาร์ทโฟนเพียงเท่านั้น แต่ยังใช้ได้กับโทรศัพท์ที่มีราคาถูกและธรรมดาที่สุดที่จะหาได้ในท้องตลาดเช่นกัน


การใช้บริการผ่านมือถือนี้กำลังแพร่กระจายไปทั่วทวีปแอฟริกา ตอนนี้มีมากถึง 16 ประเทศที่การบริการผ่านมือถือมีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าธนาคารแบบดั้งเดิม


ในประเทศจีน ตอนนี้บริษัท Fintech ให้บริการลูกค้าจำนวนเทียบเท่ากับธนาคารหลักของประเทศ ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณที่โทรศัพท์มือถือเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น


ในประเทศอินเดีย Fintech ก็เติบโตในรูปแบบคล้ายๆ กัน อินเดียตอนนี้มีตลาดที่ขนาดใหญ่ที่สุดลำดับที่ 3 สำหรับสมาร์ทโฟน โดยคาดว่ามีประชากรมากกว่า 300 ล้านคน ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านทางโทรศัพท์ในปี 2017


เป็นที่น่าสังเกตว่าในการพัฒนาทั้งหมดนี้เกิดจากการขาดโครงสร้างพื้นฐานที่ดี จึงทำให้บริการทางการเงินผ่านมือถือและบริการอื่นที่เกี่ยวข้องสามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วกว่าในประเทศที่มีระบบธนาคารที่แข็งแกร่ง ประเทศที่กำลังพัฒนามักถูกมองว่าจะสามารถกระโดดนำประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งมีเครือข่ายธนาคารในรูปแบบสาขาและมีโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นของธนาคารเองที่ครอบคลุม ประเทศที่กำลังพัฒนาจะมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปลงที่ต่ำกว่าจากการมีผู้ใช้บริการชำระเงินผ่านมือถือและบริการ Fintech อื่น เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ


หากเรารออีกหลายทศวรรษ ธนาคารในประเทศที่พัฒนาแล้วก็จะคิดค้นเครื่องมือดิจิทัลด้านการธนาคารและในที่สุดก็จะค่อยๆ กระจายลงมายังประเทศที่กำลังพัฒนา แต่เป็นเพราะความต้องการด้านการธนาคารในหมู่คนจนมีจำนวนมาก และอีกทั้งยังเป็นเพราะคนจนยังเป็นฐานลูกค้าที่สามารถทำกำไรได้ดี เหล่าผู้ประกอบการในประเทศกำลังพัฒนาตอนนี้กำลังทำสิ่งที่น่าตื่นเต้น บางผลงานก็คงจะกระจายขึ้นไปยังประเทศที่พัฒนาแล้วในอนาคต


bottom of page